วันอังคารที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

7 วิธีป้องกัน ก่อนความอ้วนจะมาเยือน


1. รักษาท้องให้อุ่นเสมอ บริเวณหน้าท้องตั้งแต่ใต้สะดือลงไปเป็นที่รวมของไขมัน แต่ถ้าเราทำให้บริเวณนี้อบอุ่นให้มากที่สุด เลือดจะไหลเวียนสะดวก และดันเอาไขมันที่สะสมอยู่ให้หลุดจากผนังหลอดเลือด เลิกกลุ้มเรื่องพุงย้วยไปๆได้เลย
วิธีทำให้หน้าท้องอุ่น ซื้อแผ่นทำความร้อนสำหรับแปะหน้าท้องมาติดไว้ หรือจะใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบระหว่างนั่งดูทีวีก็ได้

2.ทำสุกี้กินเอง อาหารประเภทหม้อไฟจะทำให้ร่างกายอบอุ่นช่วยให้เลือดลมเดินสะดวก และเครื่องปรุงที่เอามาทำเป็นหม้อไฟมักจะดีต่อสุขภาพ เช่น สารพัดผัก เนื้อปลา หมู ไข่ไก่ วุ้นเส้น กินแล้ว อ้วนยากเพราะไม่ัมีการทอดหรือใส่นมเนยเหมือนอาหารหนักท้องอื่นๆ ถ้าช่วงไหนรู้ตัวว่าน้ำหนักตัวเริ่มขึ้น อย่าลืมทำสุกี้เป็นอาหารเย็นสักอาทิตย์ละ 3 ครั้ง โดยเน้นผักมากๆหน่อย นอกจากจะผอมแล้วสุขภาพจะได้ดีขึ้นด้วย

3.ข้อเท้าต้องอบอุ่น เท้าเป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทมากมาย การนวดกระตุ้นฝ่าเท้าบ่อยๆ ถึงช่วยให้สุขภาพได้ดี แต่คนเมืองร้อนอย่างเรามักจะไม่ให้ความสำคัญกับเท้า หารู้ไหมว่าเท้าเย็นๆ จะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตไม่ดี พลอยทำให้มีไขมันสะสมได้ง่าย และระบบเผาผลาญอาหารก็ทำงานไม่คลองตัวไปด้วย เวลาอยู่ห้องแอร์จึงควรจะใส่ถุงเท้าหรืออย่างน้อยก็เอาผ้าห่มปิดเท้าเอาไว้เสมอ เป็นการป้องกันความอ้วนไปในตัว

4.มีความรัก บางคนบอกว่ายิ่งมีความรักก็ยิ่งอ้วน เพราะต้องไปดินเนอร์มื้อหรูกับแฟนทุกเย็น แต่ในมุมมองของนักโภชนาการกลับมองว่าผู้หญิงที่มีความรักจะผอมลง เพราะความรักทำให้เราใส่ใจรูปร่างมากขึ้น เวลาจะหยิบขนมไขมันเข้าสูงเข้าปาก แค่คิดถึงหน้าหล่อๆ ของหวานใจก็กลัวอ้วนจนกินไม่ลงแล้ว

5.แม่ครัวไม่กินคนเดียว การฝึกทำอาหารเพิ่มเสน่ห์ปลายจวักให้ตนเอง เป็นไอเดียที่กิ๊บเก๋ยูเรก้ามากๆ แต่แม่ครัวมักจะมาตกม้าตายตอนที่ต้องกินทุกอย่างที่ตัวเองทำคนเดียว เพราะต้องกินมากกว่าปกติ เวลาทำกับข้าวสาวญี่ปุ่นเขาเลยชอบชวนเพื่อนมาเฮฮาปาร์ตี้กันที่บ้าน จะได้มีคนช่วยชิมช่วยกระจายความอร่อยทั่วๆกัน

6.มองตัวเองหน้ากระจก นี่เป็นเทคนิครักษารูปร่างที่ไม่ยากเลยแต่ให้ผลชงัดนัก ด้วยการใส่แต่ชุดชั้นในไปยืนอยู่หน้ากระจกแบบเต็มตัว คุณจะได้เห็นว่ารูปร้่างส่วนไหนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่นตอนนี้พุงเริ่มป่อง ต้นแขนเริ่มอวบเกินงาม หรือถ้าผอมเพียวหุ่นดีอยู่แล้ว การได้เห็นด้วยตาตัวเองก็จะทำให้คุณหวงแหนอยากรักษาหุ่นดีๆ ให้อยู่กับตัวเองนานๆ จะได้มีแรงใจต้านทานพิซซ่า โดนัทและขนมนมเนยทั้งหลายงัย

7.วัดสัดส่วนไว้ก่อน การจะบอกว่าตัวเองอ้วนหรือผอมที่แท้จริงไม่ได้ดูกันที่น้ำหนัก แต่ต้องดูเป็นส่วนๆไป เช่น บางคนผอมมากแต่สะโพกใหญ่ หรือบางคนไม่มีหน้าท้องเลยแต่ส่วนอื่นๆอ้วนกลมไปหมด ฉะนั้นวิธีป้องกันความอ้วนที่ดีที่สุดคือการใช้สายวัดสัดส่วนของเราเป็นประจำอาทิตย์เว้นอาทิตย์ แล้วพยายามรักษาตัวเลขให้อยู่คงที่อย่างนั้นตลอดไป ถ้าส่วนไหนอ้วนขึ้นก็จะลดเฉพาะจุด วิธีนี้จะทำให้คุณหุ่นดีทั้งตัวและไม่ต้องทรมานกับการอดอาหารตลอดเวลาด้วย
ข้อมูลจาก spicry

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

10 นักฟุตบอลรูปไม่หล่อ แต่ฝีเท้าขั้นเทพในฟุตบอลโลก 2010


Carlos Tevez

อีกหนึ่งหนุ่มหุ่นเตี้ยตันที่ฝีเท้าโดดเด่นกลบความเยินของใบหน้าซะมิด สำหรับกองหน้าคนดังวัย 26 ขวบชาวอาร์เจนติน่าที่เทพซ้าจนได้ฉายาว่า " นิวมาราโดน่า" โดย "คาร์ลอส เตเบซ" เป็นดาวยิงที่ได้ชื่อว่ามีความแข่งแกร่งสูง (ทั้งยังมั่นใจสูง พร้อมลุยดะอีกตะหาก) มีทักษะในการครองบอลที่ยอดเยี่ยม แถมยังแตะลูกฟรีคลิกได้อีกด้วย นอกจากนี้เจ้าตัวยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของละตินอเมริกาจาก "เอล ปาอิส" นิตยสารดังแห่งอุรุกวัยมา 3 ปีซ้อน


Frank Ribery

ถึงหน้าตาจะไม่ดูดี แต่เรื่องฝีเท้าขอบอกว่าเจริญใจแฟนบอลแน่นอนค่ะ การันตีด้วยสมญานาม นิว ซีดาน ที่คอบอลพร้อมใจยกให้ แถมนักแตะขั้นเทพอย่าง ซีดาน ยังออกมาชื่นชม ฟร้องค์ ริเบรี่ ด้วยว่า "เป็นอัญมณีน้ำงามแห่งวงการฟุตบอลฝรั่งเศส" แม้กองกลางหน้าบากวัย 27 ขวบ ผู้นี้จะมีรูปร่างค่อนข้างเล็ก (สูง 171 ซม.) แต่เขาก็ชดเชยด้วยความเร็ว ทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม การผ่านบอลอันเฉียบขาด ที่สำคัญเจ้าตัวยังทำประตูได้ดีไม่แพ้ศูนย์หน้า





Wayne Rooney

แม้จะเคยโดนจิกกัดว่าละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้ายักษ์เขียวหน้าอัปลักษณ์อย่าง เชร็ค แต่ออร่าความเก่งของดาวยิงคนดังจากแดนผู้ดี เวย์น รูนีย์ ก็มากล้น จนหลายคนมองข้ามเรื่องหน้าตาของเขาไปเลย สำหรับจุดเด่นของศูนย์หน้าร่างอวบวัย 24 ปี คนนี้อยู่ที่ความแข็งแกร่ง ครองบอลได้ดี และทำประตูได้เฉียบขาด การัยตีด้วยการคว้าอันดับหนึ่งนักแตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด(จัดโดยเว็บไซต์เดลี่เมล์) จากผลงานพังตาข่าย 26 ประตู พร้อมรังต่ำแหน่งดาวซัลโวอีกด้วย





Didier Drogba

ทะมึนมาแต่ไกลต้องยอดศูนย์หน้าวัย 32 ปี จากทีมเชลซี อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่แม้จะติดลบเรื่องความหล่อ แต่เรื่องความสามารถขอบอกว่าเก๋าเก๋าของจริง เรียกว่าไม่มีอะไรจะมาหยุดเขา จากการเขาทำประตูได้ ไม่ว่าจะถูกเบียดหรือสกัดจากด้านหลัง แต่เจ้าตัวก็ยังพร้อมที่จะพาบอลจากเท้าเข้าไปสู่ก้นตาข่ายทีมคู่แข่งได้อย่างแม่นยำ ไม่แปลกใจเลยค่ะที่ ดร็อกบา จะถูกยกให้เป็นเสาหลักที่จะพาทีมไอเวอรรี่ โคสต์ ช่วงชิงถ้วยฟีฟ่าเวิลด์คัฟในฟุตบอลโลกครั้งนี้




Park Ji Sung

ระดับกัปตันทีมโสมขาว พัคจีซอง ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะคนหนึ่งที่มีทักษะเฉพาะตัวและมีพลังงานสูง คือครบสูตรทั้งความเร็ว ความขยันและความอึด สามารถเล่นได้ทั้งต่ำแหน่งปีกซ้ายและกองกลาง เรียกว่าเป็นนักเตะเอเชียที่สร้างชื่อในระดับอินเตอร์ ได้โดดเด่นมากๆ










Samuel Eto

มาแบบแซบครบสูตรอีกรายก็ต้องนักเตะผิวหมึกวัย 29 จากทีมคาเมรูนอย่าง ซามูเอล เอโต้ คอนเฟิร์มด้วยต่ำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา 3 ปีซ้อน (2004-2006) สำหรับจุดเด่นของกองหน้าคนดังจากอินเตอร์คนนี้ นอกจากความแข็งแกร่งของร่างกายสไตล์นักเตะจากกาฬทวีปแล้ว เอโต้ ยังมีทักษะและสัญชาตญาณการทำประตูที่สุดยอด ถือเป็นดาวซัลโว ที่ฝีเท้าแม่นยำรวมถึงมีความทุ่มเมเป็นเลิศ สมแล้วล่ะค่ะที่แป็นขวัญใจแฟนบอลหมอผี




Yakubu Aiyegbeni

พูดถึงตัวพ่อของทีมไนจีเรีย รับรองว่าต้องมีชื่อของศูนย์หน้าคนดังวัย 27 ปี อย่าง ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ แน่นอน เพราะดาวยิงยอมพลังจากทีใโอเวอร์ตันคนนี้ถือเป็นนักเตะฝีมือเป็นนักเตะฝีเท้าเยี่ยมอันดับต้นๆของกาฬทวีปทักษะรอบตัว ทั้งพักบอลได้คม เลี้ยงบอลได้ดี ส่งบอลแม่นยำ ที่สำคัญ ยังเป็นกองหน้าที่แข็งแกร่งมากๆ เนื่องจากรูปร่างล่ำบึกและความอดทนสไตล์นักเตะแอฟริกา เรียกว่าถึงจะไม่ใช่ทีมเต็งจ๋า แต่เพราะความสามารถของ ไอเย็กเบนี่ ก็ทำให้ไนจีเรียมีลุ้นค่ะ





Dirk Kuyt

ตามติดมาด้วยกองหน้าชาวดัชต์ที่เคยติดโผนักเตะที่มีหน้าตาขี่เหร่อันดับ 3 จากการจัดอันดับของหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดังเมืองผู้ดี เดอะ ซัน อย่าง เดร์ค เค้าท์ ที่แม้หน้าตาจะไม่ดึงดูด แต่เรื่องฝีเท้าขอบอกว่าเร้าใจมั่กๆโดยดวงดังวัย 29 ขวบคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ขยัน (อารมณ์ประมาณนักเตะพรแสวง) ทั้งทุ่มเท ขยันวิ่ง ฉวยจังหวะเข้าครองบอลได้ดี ไม่แปลกที่ชาวเดอร์ค็อปรวมถึงคอบอลชาวเนเธอร์แลนด์จะรักผู้เล่นจอมทุ่มเทคนนี้กันนัก




Bacary Sagna

แร้งงไม่แคร์สื่อตั้งแต่ทรงผมสุดเปรี้ยวไปจนถงหน้าตาชวนผวา สำหรับอีกหนึ่งเสาหลักของทีมตราไก่อย่าง บาการี่ ซานญ่า โดยแบ็กขวาจอมลุยวัย 27 ขวบของทีมปืนใหญ่อาร์เซนอลคนนี้ โด่ดเด่นด้วยความเร็วและความแข็งแกร่ง เรียกว่าทั้งทึกทั้งไว แถมเล่นได้ดุดันสมใจคอบอลมั่กๆ









Sulley Muntari

ดาวดังวัย 25 ปี จากทีมชาติกาน่าอย่าง ซัลลีย์ มุนตารี่ ที่เคยสร้างความประทับใจให้แฟนบอลทั่วโลกด้วยฟอร์มอันร้อนแรงในศึกฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้ายที่ประเทศเยอรมันมาแล้ว โดย มุนตารี่ เป็นกองกลางที่ครบเครื่องคนหนึ่งของวงการเพราะทั้งแข็งแกร่ง ทั้งมีความเร็วสูง ที่สำคัญมีทักษะครองบอลที่ดีมาก เรียกว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ทีมชาติกาน่าฝ่าด่านหินเข้ารอบลึกๆในศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้




ขอบคุณข้อมมูลจาก spicy

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรื่องย่อ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต


เรื่องเริ่มต้นที่บ้านของลูเซียส มัลฟอย โดยลอร์ดโวลเดอมอร์ และสมุนจำนวนหนึ่ง วางแผนการเกี่ยวกับการย้ายออกจากบ้านเดอร์สลี่ย์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงชื่อแยกซ์ลีย์ ระบุว่าแฮร์รี่จะย้ายออกในวันคล้ายวันเกิด ในขณะที่สเนประบุว่าแฮร์รี่จะย้ายออกก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ โวลเดอมอร์ยืมไม้กายสิทธิ์ของมัลฟอย จากการที่ไม้กายสิทธิ์ของเขาเองใช้ไม่ได้ผลกับแฮร์รี่

ภาคีนกฟีนิกซ์ ส่งพ่อมดมาคุ้มครองครอบครัวเดอร์สลีย์ ในขณะที่กองกำลังอีกส่วนหนึ่งมาพาตัวแฮร์รี่ออกไป โดยวางแผนให้คนอีกหกคนเป็นนกต่อ ใช้น้ำยาสรรพรสแปลงตัวเป็นแฮร์รี่กระจายไปยังที่ซ่อนต่างๆกัน แต่แฮร์รี่ยังคงถูกสมุนโวลเดอมอร์ระบุตัวได้จากการใช้คาถาปลดอาวุธที่เขาใช้ เป็นประจ
ำ อย่างไรก็ตาม ไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ยังคงชนะไม้ที่ยืมมาของโวลเดอมอร์ แฮร์รี่ไปถึงบ้านโพรงกระต่ายอย่างปลอดภัย แต่เฮ็ดวิกต้องตายจากการปะทะกัน และพบว่าจอร์จ วีสลีย์เสียหูไปข้างหนึ่งด้วยคาถาของสเนป และอลาสเตอร์ มูดดี้ถูกโวลเดอมอร์ฆ่า

สองสามวันต่อมา รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์มาที่บ้านโพรงกระต่าย เพื่อนำของตามพินัยกรรมของดัมเบิลดอร์มาให้แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ รอนได้รับ "ดีลูมิเนเตอร์" หรือ "ที่ดับไฟ" ของดัมเบิลดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ได้รับหนังสือ "นิทานของบีเดิลยอดกวี"เป็นภาษารูนโบราณ ส่วนแฮร์รี่ได้รับลูกสนิชลูกแรกที่แฮร์รี่จับได้ และดาบของกริฟฟินดอร์ อย่างไรก็ตามกระทรวงไม่ยอมมอบดาบให้แก่แฮร์รี่

ในระหว่างงานแต่งงาน ของบิล วีสลีย์ และเฟลอร์ เดอลากูร์ มีข่าวมาว่าโวลเดอมอร์ได้เข้าควบคุมกระทรวงเวทมนตร์เป็นผลสำเร็จ และผู้เสพความตายได้เข้าโจมตีอีกครั้ง แฮร์รี่และเพื่อนทั้งสองหายตัวหนีไปยังบาร์ของมักเกิ้ลแห่งหนึ่ง แต่ก็ถูกตามพบอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ทั้งสามหนีรอดไปได้อีก จากนั้นจึงหนีไปยังบ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ ซึ่งได้ค้นพบว่า ร.อ.บ. คือเรกูลัส แบล็ก น้องของซิเรียส และล็อกเก็ตของจริงซึ่งแฮร์รี่ตามหานั้น ไปตกอยู่ในความครอบครองของโดโลเรส อัมบริดจ์

กลุ่มของแฮร์รี่สามารถ บุกเข้าไปในกระทรวง และนำล็อกเก็ตมาได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ที่ซ่อนที่กริมโมลด์เพลซถูกค้นพบ ทั้งสามจึงต้องเร่ร่อนตามชนบทโดยเปลี่ยนที่พักแรมไปเรื่อยๆ และต่อมาได้ทราบโดยบังเอิญว่าดาบกริฟฟินดอร์ที่เคยเห็นเป็นดาบปลอมทำเลียน แบบ ส่วนดาบจริงนั้นหายไป ระหว่างนั้น รอนได้ทะเลาะกับแฮร์รี่ และแยกตัวจากไป แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ไปยังก็อดดริกโฮลโล่ เพื่อตามหาดาบ แต่กลับถูกนากินี งูของโวลเดอมอร์ทำร้าย และไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่เสียหายโดยไม่อาจซ่อมได้ หลังจากนั้นไม่นาน มีผู้พิทักษ์รูปกวางตัวเมียปรากฏตัวบริเวณค่ายพักที่แฮร์รี่อยู่ และกวางได้นำแฮร์รี่ไปพบดาบกริฟฟินดอร์ซึ่งซ่อนอยู่ในบึงน้ำแข็ง รอนกลับมาช่วยแฮร์รี่ในการนำดาบขึ้นมา และทำลายล็อกเก็ตซึ่งเป็นฮอร์ครักซ์อันแรก ทั้งสามไปยังบ้านของครอบครัวเลิฟกู๊ด และได้รู้เรื่อง "เครื่องรางยมทูต" สามอย่าง ได้แก่ ไม้กายสิทธิ์ที่ทำจากไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งทำให้ชนะการต่อสู้ หินชุบวิญญาณ ที่สามารถเรียกคนตายกลับมา และผ้าคลุมล่องหนที่ไม่เสื่อมตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม พ่อของลูน่าแจ้งกระทรวงเรื่องแฮร์รี่ โดยหวังแลกกับลูน่าที่ถูกจับไปก่อนหน้า พวกของแฮร์รี่หนีรอดได้อีกครั้ง

พวก ของแฮร์รี่ถูกนักล่าค่าหัวจับได้ หลังจากแฮร์รี่เผลอเอ่ยชื่อโวลเดอมอร์ เพราะมีการเสกคาถาให้เป็นคำต้องห้ามและบุคคลที่พูดคำนี้จะถูกระบุตัวได้ ทันที พวกนักล่านำแฮร์รี่และเพื่อน รวมทั้งดีน โทมัส และก็อบลินชื่อกริ๊บฮุกที่ถูกจับอยู่ด้วยไปยังบ้านมัลฟอย ที่นั้น พวกเขาได้พบกับโอลิแวนเดอร์ ช่างทำไม้กายสิทธิ์ และลูน่า เลิฟกู๊ด ทั้งหมดหนีไปได้ด้วยความช่วยเหลือของด็อบบี้ เอลฟ์ที่เคยอยู่กับมัลฟอย แต่ดอบบี้ถูกเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ฆ่าตาย พวกเขาหนีไปอยู่ที่บ้านของบิลและเฟลอร์

ทั้งสามบุกเข้าไปในธนาคาร กริงกอตส์ด้วยความช่วยเหลือของก็อบลิน และขโมยถ้วยฮัฟเฟิลพัฟออกมาจากห้องนิรภัยของเลสแตรงจ์ โวลเดอมอร์ทราบข่าวการขโมยนี้ จึงทราบในที่สุดว่าพวกแฮร์รี่กำลังตามหาฮอร์ครักซ์ แฮร์รี่ได้รับรู้ความคิดของโวลเดอมอร์อีกครั้ง ขณะที่เขากำลังลำดับที่ตั้งของฮอร์ครักซ์ทั้งหมด ทำให้แฮร์รี่ได้รู้ว่าฮอร์ครักซ์อันสุดท้ายที่ตนยังไม่ทราบว่าเป็นอะไรนั้น อยู่ในฮอก
วอตส์นั่นเอง พวกเขากลับเข้าไปในฮอกวอตส์ด้วยความช่วยเหลือของอาเบอร์ฟอร์ธ ดัมเบิลดอร์ น้องชายของอัลบัส

แฮร์รี่แจ้งเตือนการมาของโวลเดอมอร์แก่อาจารย์ และพบฮอร์ครักซ์ซึ่งเป็นรัดเกล้าของเรเวนคลอในห้องต้องประสงค์ หลังจากนั้นพวกของแฮร์รี่ได้ไปยังเพิงโหยหวน และเห็นโวลเดอมอร์ฆ่าสเนป ด้วยความเชื่อว่าเขาจะได้เป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ที่เคยเป็นของดัม เบิลดอร์อ
ย่างสมบูรณ์ ก่อนตาย สเนปมอบความทรงจำแก่แฮร์รี่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ฝ่ายดัมเบิลดอร์ ด้วยความรักที่มีต่อลิลี่ แม่ของแฮร์รี่ นอกจากนี้ แฮร์รี่ยังค้นพบว่า วิญญาณส่วนหนึ่งของโวลเดอมอร์อยู่ในตัวของเขาเอง และโวลเดอมอร์ไม่สามารถตายได้หากเขายังมีชีวิตอยู่ แฮร์รี่จึงนำตัวเองไปพบกับโวลเดอมอร์ และต่อสู้กับคาถาพิฆาต

แฮร์รี่ ตื่นขึ้นมาและพบกับดัมเบิลดอร์ ซึ่งอธิบายว่าเขาไม่สามารถตายโดยที่โวลเดอมอร์ยังอยู่ เพราะโวลเดอมอร์สร้างร่างขึ้นมาจากเลือดของแฮร์รี่ แฮร์รี่เป็นเจ้าของอันชอบธรรมของเครื่องรางยมทูต คาถาพิฆาตได้ทำลายวิญญาณของโวลเดอมอร์ในตัวแฮร์รี่ และแฮร์รี่สามารถเลือกที่จะไปต่อ หรือกลับไปเพื่อสู้กับโวลเดอมอร์อีกครั้ง แฮร์รี่กลับไป และได้สู้กับโวลเดอมอร์อีกครั้งหนึ่ง แฮร์รี่ยังรู้ด้วยว่านายของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ที่แท้จริงไม่ใช่สเนป แต่เป็นเดรโก มัลฟอย ซึ่งเขาเอาชนะมาได้ ในที่สุดโวลเดอมอร์ก็สิ้นชีพด้วยคำสาปพิฆาตของตัวเองที่สะท้อนกลับ

เรื่อง จบลงด้วยฉากในอีก 19 ปีต่อมา แฮร์รี่แต่งงานกับจินนี่ และมีลูกด้วยกันสามคน คือ เจมส์,อัลบัส เซเวอรัส,ลิลี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ก็แต่งงานกัน มีลูก 2คน คือ ฮิวโก้,โรส ทั้งสองครอบครัวพบกันที่สถานีรถไฟ ขณะไปส่งลูกๆ ไปยังฮอกวอตส์ แฮร์รี่ไม่เคยเจ็บแผลเป็นอีกเลยหลังจากลอร์ดโวลเดอมอร์พ่ายแพ....

แฟนคลับแฮร์รี่ พอตเตอร์

เรื่องย่อ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม


ผู้เขียน : เจเค โรว์ลิ่ง
ชื่อตอนภาษาไทย : แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม
ศิลปินผู้วาดหน้าปก : แมรี่ กรองด์เปร (ปกอเมริกา), คลิฟฟ์ ไรท์
(ปกอังกฤษ)

เนื้อเรื่องย่อ

เกิด อุบัติเหตุและฆาตกรรมทั้งในโลกพ่อมดและมักเกิ้ล ฟัดจ์ถูกปลดจากรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนตร์และ รูฟัส สกริมเจอร์ ได้เป็นแทน ทั้งสองคนมาแจ้งเหตุให้นายกรัฐมนตรีของมักเกิ้ลให้ทราบเพื่อจะได้ระวังตัว นาซิสซาและเบลลาทริกซ์เดินทางมาหาสเนปที่บ้าน ปรากฎว่าสเนปยังจงรักภักดีต่อ โวลเดอมอร์ และทำหน้าที่สายลับในฮอกวอตส์ โวลเดอมอร์มีแผนจะใช้ เดรโกกระทำบางอย่าง นาซิสซาจึงขอให้สเนปสาบานว่าจะช่วยดูแลลูกชาย ดัมเบิลดอร์มารับแฮร์รี่ที่บ้านลุงกับป้า ด้วยมือที่บาดเจ็บข้างหนึ่งและยังสวมแหวนแปลกประหลาด อาจารย์ใหญ่บอกว่า แฮร์รี่ได้มรดกจากซีเรียสทั้งหมดรวมทั้งครีเชอร์ด้วย แฮร์รี่ตัดสินใจส่งครีเชอร์ไปทำงานที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์พาแฮร์รี่ไปหาเพื่อนเก่าชื่อ โฮเรส สลักกอร์น เพื่อขอให้กลับไปช่วยที่ฮอกวอร์ต แฮร์รี่ได้รู้ว่า สลักกอร์นเคยเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีริน และตระกูลแบล็คเคยอยู่บ้านนี้ทุกคนนอกจาก ซีเรียส หลังจากนั้นก็ไปส่งเด็กหนุ่มที่บ้านโพรงกระต่าย ก่อนจะไปได้บอกว่า เปิดเทอมนี้จะสอนวิชาพิเศษให้เขา โดยให้คำเตือนไว้ 2 ข้อ คือ เก็บผ้าคลุมล่องหนไว้กับตัวเสมอ กับ ห้ามออกไปเพ่นพ่าน
แฮร์รี่ เล่าเรื่องลูกแก้วพยากรณ์ให้รอนกับเฮอร์ไมโอนี่ฟังตามที่ดัมเบิลดอร์บอก เขาพบว่า เฟลอร์ เดอลากูร์มาอยู่ที่บ้านโพรงกระต่ายเพราะกำลังจะแต่งงานกับบิล โดยที่คุณนายวีสลีย์ไม่ค่อยเห็นชอบเท่าไหร่ นกฮูกส่งผลการสอบ ว.พ.ร.ส. มาให้ ทั้งแฮร์รี่และรอนได้คะแนนสูงพอที่จะเป็นมือปราบมาร และแฮร์รี่ยังได้เป็นกัปตัน ทีมควิดดิชอีกด้วย ระหว่างนั้นมีข่าวการถูกทำร้ายและการหายตัวไปของพ่อมดอีกหลายคนรวมทั้งโอลิ แวนเดอร์ เจ้าของร้านขายไม้กายสิทธิ์กับฟอร์เตสคิว เจ้าของร้านไอสครีมด้วย ในวันที่ไปซื้อของที่ตรอกไดแอกอน แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ มีเรื่องกับมัลฟอยและแม่ ก่อนที่จะไปที่ร้านของเฟร็ดกับจอร์จที่อวดผลงานมากมาย แฮร์รี่สังเกตเห็นมัลฟอยเดินผ่านหน้าร้านตามลำพัง ทั้งสามคนใช้ผ้าคลุมล่องหนตามไป เห็นมัลฟอยเข้าไปในร้าน บอร์เจนและเบิร์ก เขาถามถึงวิธีการซ่อมแซมอะไรบางอย่างจากเจ้าของร้าน กับให้เก็บของอย่างหนึ่งไว้ให้เขา เฮอร์ไมโอนี่ออกไปตีขลุมถามเจ้าของร้านและพบว่า ของที่เดรโกให้เก็บเป็นสร้อยคอเส้นหนึ่ง ในวันที่นั่งรถไฟ ไปฮอกวอตส์ แฮร์รี่พบสลักกอร์น และได้รับเชิญให้เข้าร่วมชมรมซึ่งสลักกอร์นรวบรวมเด็กเก่งและมีชื่อเสียงไว้ ด้วยกัน แฮร์รี่แอบตามไปดูมัลฟอยโดยใช้ผ้าคลุมล่องหนแต่ถูกจับได้และถูกทำร้าย แต่ท็องส์ซึ่งได้รับคำสั่งให้มาประจำการ ที่ฮอกส์มี้ดมาช่วยไว้ได้ เมื่อรถไฟมาถึงโรงเรียน เขาได้รู้ว่าสลักกอร์นได้รับเชิญให้มาสอนวิชาปรุงยา ขณะที่สเนปได้สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืด เนื่องจากในปีนี้นักเรียนจะสามารถยกเว้นวิชาที่ไม่ต้องการ แฮร์รี่จึงไม่ได้ซื้อหนังสือวิชาปรุงยา มักกอลนากัลทราบก็บอกว่า สลักกอร์นน่าจะมีให้ยืม นอกจากนี้สามสหาย ยังเลิกเรียนวิชาดูแล!วิเศษซึ่งยังความผิดหวังให้กับแฮกริดอย่างยิ่ง เมื่อถึงวิชาปรุงยา สลักกอร์นให้แฮร์รี่ยืมหนังสือเก่า ที่อยู่ในตู้หนังสือในห้อง เด็กหนุ่มพบว่า หนังสือที่เขาใช้มีโน้ตอยู่เต็มไปหมด และยังเขียนว่าเป็นของ Half-Blood Prince เมื่อถึงเวลาเรียนเขาทำตามที่โน้ตเขียนไว้และประสบความสำเร็จขนาดชนะเฮอร์ไม โอนี่ สลักกอร์นซึ่งชื่นชอบแฮร์รี่เป็นการส่วนตัวอยู่ก่อนแล้วให้ยา โชคดี' ขวดหนึ่งเป็นรางวัล ขณะที่ในวิชาป้องกันตัว จากศาสตร์มืด สเนปเริ่มสอนการใช้เวทย์มนต์โดยไม่ท่องคาถา รวมถึงวิชาอื่นๆ เช่นกัน และในปีนี้พวกเขาจะได้ เรียนวิชาหายตัวอีกด้วย แฮร์รี่ใช้หนังสือเล่มนั้นต่อๆ มา แม้เฮอร์ไมโอนี่จะคัดค้านแต่ทั้งเขาและรอนไม่ได้สนใจ เพราะนอกจากวิธีปรุงยา ยังมีโน้ตคาถาแปลกๆ อีกด้วย เมื่อถึงเวลานัดหมายไปเรียนพิเศษกับดัมเบิลดอร์ แต่ละครั้ง แทนที่จะสอน ครูใหญ่กลับพาเด็กหนุ่มเข้าไปในเพนซีฟ เพื่อดูความจำเรื่องอดีตของลอร์ดโวลเดอมอร์ เท่าที่ดัมเบิลดอร์จะรวบรวมได้จากความทรงจำของหลายๆ คนรวมทั้งตัวเขาเอง แฮร์รี่จึงได้รู้ว่า โวลเดอมอร์ เป็นเชื้อสายของซัลลาซาร์ สลิธีริน แฮร์รี่ได้เห็น มาร์โวโล กอนท์ ผู้เป็นตา มอร์ฟินผู้เป็นลุง และเมอโรปี แม่ของโวลเดอมอร์ พวกเขาครอบครองแหวนกับจี้ห้อยคอซึ่งเป็นมรดกตกทอด เมอโรปีหลงรักมักเกิ้ลชื่อ ทอม ริดเดิ้ล เมื่อเธออยู่ตามลำพังหลังจากพ่อและพี่ชายถูกจับข้อหาทำร้ายมักเกิ้ลและเจ้า พนักงาน เธอก็ใช้ยาเสน่ห์ กับริดเดิ้ลและหนีไปกับเขา หากเมื่อเธอเลิกใช้ยาในภายหลัง เขาก็หนีเธอมาทั้งๆ ที่เธอกำลังตั้งท้อง เธอหมดอาลัยตายอยาก และยากจนถึงกับต้องขายมรดกไปถูกๆ เธอซมซานไปจนถึงบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า ของมักเกิ้ลแห่งหนึ่ง เมื่อคลอดลูกแล้วก็ตายไป ต่อมาดัมเบิลดอร์เป็นผู้ไปหาริดเดิ้ลเพื่อแจ้งเรื่องที่ได้ เข้าเรียนในฮอกวอร์ต เขาพบว่า ริดเดิ้ลส่อแวว ทะนงตน ชอบเอาชนะ และพอใจกับการทำร้ายคนมาตั้งแต่เด็กๆ รวมทั้งชอบเก็บของผู้ถูกทำร้ายไว้ต่างถ้วยรางวัล แฮร์รี่ยังได้รู้ว่าริดเดิ้ลเคยอยู่ในชมรมของสลักเกิ้ล เขาเห็นริดเดิ้ลถามเรื่อง กล่องวิญญาณ (Horcruxes) แต่ยังไม่รู้ว่าคืออะไรความทรงจำช่วงนี้ก็ขาดหาย เพราะสลักเกิ้ลผู้เป็นเจ้าของได้ลบความทรงจำส่วนนี้ไป ดัมเบิลดอร์ให้เด็กหนุ่มไปถามแต่ก็ผู้เป็นเจ้าของก็ไม่ยอมตอบ ระหว่างนั้น แคตี้ เบล ถูกวางยา จนถึงขนาดส่งเซ็นต์มังโก แฮร์รี่สงสัยว่าเป็นมัลฟอยแต่ไม่มีหลักฐาน เขาให้ครีเชอร์ ์กับด็อบบี้ตามสอดแนมแต่ก็ไม่ได้เรื่อง เขาเคยใช้แผนที่ตัวกวนแต่ก็ไม่พบมัลฟอย ราวกับฝ่ายนั้นหายไปจากปราสาท แฮร์รี่เกิดความรู้สึกแปลกๆ กับจินนี่ในขณะที่เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทางเย็นชาต่อรอนซึ่งคบกับลาเวนเดอร์ เขาถึงกับใช้ยา โชคดีนิดหน่อยจนจินนี่เลิกกับดีน และหันมาคบกับเขาในที่สุด ในวันคริสต์มาสที่แฮร์รี่มาพักที่บ้านโพรงกระต่าย สกริมเจอร์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์คนใหม่มาพบเขาและเสนองานในกระทรวงให้แต่จะให้ เขาคอยสอดแนมดัมเบิลดอร์ แฮร์รี่ปฏิเสธ หลังจากนั้น เมื่อถึงวันเกิดของรอนปรากฏว่ารอนถูกวางยา แต่ก็จับมือใครดมไม่ได้ หลังจากนั้นรอนเลิกกับลาเวนเดอร์ ในการพบกับดัมเบิลดอร์ครั้งต่อๆ มา แฮร์รี่ได้รู้ว่า โวลเดอมอร์เคยสมัครเป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์ มืดกับดิพพิต อาจารย์ใหญ่คนเก่า ดัมเบิลดอร์ให้ข้อสันนิษฐานว่าเพราะเจ้าแห่งศาสตร์มืดอาจจะมีแผนค้นหาความ ลับในปราสาทและชักจูงพ่อมดหนุ่มสาว เมื่อถูกปฏิเสธเพราะอายุน้อยเกินไป เขาก็ไปทำงานในร้านบอร์เจนและเบิร์กซึ่งทำให้ได้มีโอกาสหาของมากมาย ครั้งหนี่งเขาไปติดต่อกับแม่มดคนหนึ่งซึ่งชอบเขามากถึงกับอวดของสะสมที่มี ค่าที่สุดคือถ้วยของ เฮลก้า ฮัฟเฟิลพัฟ กับ จี้ห้อยคอของซัลลาซาร์ สลิธีริน สองวันต่อมาแม่มดผู้นี้ก็ถูกฆ่า และเอล์ฟประจำบ้านซึ่งเป็นเจ้าของ ความทรงจำนี้ก็ถูกกล่าวหา ของทั้งสองอย่างหายไป ต่อมาโวลเดอมอร์มาเสนอตัวกับดัมเบิลดอร์อีกครั้งแต่ถูกปฏิเสธ นับตั้งแต่นั้น ไม่เคยมีอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดที่สอนเกินกว่า 1 ปี ดัมเบิลดอร์บอกว่าเป็น เพราะเขาต้องการจะหาสมบัติของเรเวนคลอกับกริฟฟินดอร์ด้วย แฮกริดมีจดหมายมาบอกว่า อาราก็อก แมงมุมยักษ์ซึ่งป่วยมานานแล้วตายลง เขาจะทำพิธีศพให้ในตอนค่ำ แฮร์รี่จึงลอบออกไปโดยใช้ยาโชคดี เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ เขาพบกับสลักกอร์น และเกลี้ยกล่อมจนอีกฝ่ายยอมถอดความทรงจำออกมาให้ ดัมเบิลดอร์กับแฮร์รี่จึงได้รู้ว่า กล่องวิญญาณเป็นเครื่องมือที่ใช้ถอดวิญญาณออกจากร่างเพื่อให้เป็นอมตะ เพราะเหตุนั้นโวลเดอมอร์จึงไม่ตายด้วยคำสาปสะท้อนกลับตอนที่ไปฆ่าแฮร์รี่ที่ ยังเล็ก แต่การที่จะทำกล่องวิญญาณได้จะต้องฆ่าคน โวลเดอมอร์แบ่งวิญญาณออกเป็น 7 ส่วน ดัมเบิลดอร์บอกว่า ส่วนหนึ่งถูกเก็บไว้ในสมุดบันทึกที่แฮร์รี่ทำลายไปเมื่อตอนปีสอง ส่วนหนึ่งอยู่ในแหวนที่แฮร์รี่เคยเห็นอาจารย์ใหญ่ใส่ และถูกทำลายไปเช่นกัน ดัมเบิลดอร์กำลังหาส่วนอื่นๆ อยู่ ดัมเบิลดอร์ยังสัณนิษฐานว่า อาจจะอยู่ที่กอดริกฮอลโล่ว ด้วยอันหนึ่ง ครั้งหนึ่งแฮร์รี่มีเรื่องกับมัลฟอย เขาใช้คาถาที่ได้จากสมุดของ Half-blood Prince โดยไม่ได้ตั้งใจ เขาโดนสเนปคาดคั้นแต่เขาไม่ตอบ ขณะที่แฮร์รี่กำลังจะไปพบครูใหญ่ เขาพบทริลอร์นี่ย์กลางทางและได้รู้เรื่องว่า ตอนที่เธอมาสัมภาษณ์เมื่อเข้าทำงานเมื่อสิบห้าปีก่อน เธอพบสเนปแอบฟังอยู่ตรงประตู แฮร์รี่บอกเรื่องนี้ให้ครูใหญ ่ทราบแต่ชายชราก็ยังปกป้องสเนปเหมือนกับที่ทำทุกครั้งซึ่งทำให้แฮร์รี่โกรธ แต่ดัมเบิลดอร์บอกแฮร์รี่ว่า เขาจะไปหากล่องวิญญาณอีกอันหนึ่งและให้แฮร์รี่ไปด้วย ก่อนไปครูใหญ่ขอให้เด็กหนุ่มสัญญาว่าจะทำตามที่เขาสั่งเช่น ซ่อนตัว วิ่ง หรือ หนี แฮร์รี่จำต้องรับคำ ทั้งสองคนไปถึงถ้ำแห่งหนึ่ง การจะเปิดถ้าต้องใช้เลือด ซึ่งดัมเบิลดอร์เป็นผู้ทำเอง โดยไม่ยอมให้แฮร์รี่ทำ ภายในถ้ำมีบ่อน้ำใหญ่มีเกาะตรงกลาง มีเรือลำหนึ่งซึ่งทั้งคู่ใช้ไปที่เกาะ แฮร์รี่สังเกตว่า ในน้ำมีศพคนตาย ดัมเบิลดอร์บอกว่าเป็นผีดิบที่โวลเดอมอร์จะเรียกใช้งาน การที่จะปราบผีดิบพวกนี้ต้องใช้ไฟ เมื่อถึงกลางเกาะก็เห็นมีแท่นหินตั้งอยู่ บนแท่นมีอ่างที่มีน้ำยา ดัมเบิลดอร์แน่ใจว่ากล่องวิญญาณน่าจะอยู่ในอ่าง ดัมเบิลดอร์บอกว่า การที่จะเอากล่องบรรจุวิญญาณจะต้องดื่มน้ำยาให้หมด เขาเป็นคนกินยาเอง เมื่อกินเข้าไป ทำให้เหมือนฝันร้าย แฮร์รี่พยายามให้เขากินยาจนหมดตามที่ได้รับคำสั่ง จนกระทั่งยาแห้ง แต่ดัมเบิลดอร์แทบ ไม่มีแรงเหลือ แต่ก็ยังเอาจี้ในอ่างมาได้ แฮร์รี่ถูกผีดิบโจมตีแต่ดัมเบิลดอร์รวบรวมกำลังเสกไฟขับไล่ และพาแฮร์รี่กลับมาฮอกส์มี้ด ที่นั่นพวกเขาพบตรามารบนฟ้า ทั้งสองคนใช้ไม้กวาดบินกลับไปที่ปราสาท โดยที่ดัมเบิลดอร์บอกให้แฮร์รี่ใช้ผ้าคลุมล่องหน เขาพบเดรโกอยู่ที่หอคอยแห่งหนึ่ง ปรากฎว่า เดรโกได้รับคำสั่งจาก โวลเดอมอร์ให้หาทางพาผู้เสพความตายเข้ามาในปราสาทด้วยตู้ที่มอนทาคิวเคยหลง เข้าไป ตู้นั้นมีทางติดต่อระหว่าง ปราสาทกับร้าน บอร์เจนและเบิร์ก ซึ่งขณะนี้ผู้เสพความตายกำลังสู้อยู่กับพวกภาคี นอกจากนี้เขายังได้รับคำสั่งฆ่า ดัมเบิลดอร์แต่ไม่สำเร็จ เขายังใช้คาถาสะกดใจกับมาดามโรสเมอร์ทาให้ร่วมมือโดยที่เธอไม่รู้ตัว ระหว่างนั้นมี ผู้เสพความตายเข้ามาและใช้พวกมากเข้ารุมจนดัมเบิลดอร์ล้มลง แฮร์รี่กำลังจะเข้าช่วยแต่แล้วสเนปก็เข้ามา สเนปใช้คาถาพิฆาตกับดัมเบิลดอร์ก่อนจะพากันหนี แฮร์รี่ตามสเนปไป เขาพยายามใช้คาถาที่ได้มาจากโน้ต แต่กลับใช้กับสเนปไม่สำเร็จ สเนปบอกว่าโน้ตนั้นเป็นของเขาเอง ผู้เสพความตายหลายคนหนีไปได้รวมทั้งสเนป กับเดรโกด้วย แฮร์รี่มาพบภายหลังว่า จี้นั้นเป็นของปลอมด้วยข้อความบางอย่างที่ลงชื่อว่า R.A.B บิลถูกผู้เสพความตายคนหนึ่งซึ่งเป็นมนุษย์หมาป่าทำร้ายแต่เฟลอร์ยืนยันว่าจะ แต่งงานกับเขา ซึ่งนี่เป็นเหตุให้ลูปินยอมรับน้ำใจของท็องส์ด้วย เฮอร์ไมโอนี่บอกว่า พบเรื่องของแม่สเนปที่นามสกุลเก่าคือ Prince และแต่งงานกับมักเกิ้ล เหตุที่สเนปทิ้งตำราไว้ที่ห้องทำงานเพราะเกรงจะถูกดัมเบิลดอร์จับได้นั่นเอง ส่วนการที่ไม่มีใครจับพิรุธเขาได้เนื่องจากความเชี่ยวชาญในการกำบังจิต ดังนั้นสเนปก็คือ Half-Blood Prince ส่วนการที่ไม่พบร่องรอยของเดรโกก็เพราะใช้ของบางอย่างจากร้านของเฟร็ดกับ จอร์จ นั่นเอง งานศพของดัมเบิลดอร์ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และเศร้าสลด มีผู้มาไว้อาลัยกันมากมายรวมทั้งพวกเงือกกับเซนทอร์ แฮร์รี่ตกลงใจว่าจะไม่กลับมาเรียนในปีหน้าแต่จะไปกอดริก ฮอลโลว์ที่บ้านเดิมเพื่อหากล่องวิญญาณที่น่าจะอยู่ที่นั่น รอนกับเฮอร์ไมโอนี่บอกว่าจะไปด้วยกันอย่างเคย ....

ต่อภาค 7

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรื่องย่อ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์


แฮร์รี่ พอตเตอร์ อายุสิบห้าปี ไม่ได้ข่าวคราวจากโลกเวทมนตร์ตลอดช่วงปิดเทอมแม้จะคอยแอบฟังข่าวนอกหน้าต่าง ห้องนั่งเล่นของพวกเดอร์สลีย์ก็ตาม เขาหลบไปอยู่ที่ถนนแม็กโนเลียหลังจากถูกพวกเดอร์สลีย์ว่ากล่าว ระหว่างนั่งเล่นอยู่ที่ชิงช้า แฮร์รี่เจอดัดลีย์กับเพื่อน จึงระบายอารมณ์โดยหาเรื่องกับดัดลีย์ ขณะที่ทั้งสองกำลังทะเลาะกัน ผู้คุมวิญญาณสองตนก็เข้ามาจู่โจมจนดัดลีย์เกือบได้รับจุมพิตถ้าแฮร์รี่ไม่ เสกคาถาผู้พิทักษ์ช่วยไว้เสียก่อน หลังจากนั้นมิสซิส ฟิกก์ หญิงแก่ที่แฮร์รี่เคยไปอยู่ด้วยเมื่อเดอร์สลีย์ให้ไปอยู่นอกบ้านก็มาพาพวก เขากลับบ้าน ปรากฏว่ามิสซิส ฟิกก์เป็นสควิบที่คอยติดตามดูแฮร์รี่ตามคำสั่งของดัมเบิลดอร์ และมีผู้ช่วยคือ มันดังกัส เฟลชเชอร์ เหตุการณ์นี้ทำให้แฮร์รี่ได้รับจดหมายจากกระทรวงเวทมนตร์แจ้งว่าเขาจะต้อง ถูกสอบสวนข้อหาใช้เวทมนตร์โดยไม่ได้รับอนุญาต และอาจถูกไล่ออกจากโรงเรียนและหักไม้กายสิทธิ์

พวกเดอร์สลีย์เมื่อเห็นสภาพของดัดลีย์ตอนที่แฮร์รี่พยุงเข้ามาในบ้าน ก็ต่อว่าแฮร์รี่และพยายามจะไล่แฮร์รี่ออกไป แต่ทันใดนั้นเอง นกฮูกตัวหนึ่งก็นำจดหมายกัมปนาทมาให้เพ็ตทูเนีย จดหมายพูดเสียงดังก้องว่า "จำคำฉันไว้" ดัดลีย์พยายามจะให้แฮร์รี่ออกจากบ้านแต่ เพ็ตทูเนียบอกว่าไม่ได้ คืนวันหนึ่งพวกเดอร์สลีย์ไม่อยู่บ้าน คนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มภาคีนกฟีนิกซ์(กลุ่มที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านโว ลเดอมอร์, โดยมี อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เป็นหัวหน้า รวมไปถึง ท็องส์, แม้ด-อาย มู้ดดี้, รีมัส ลูปิน, คิงสลีย์ ชักเคิ้ลโบลต์, เอลเฟียส ดอจ์, ดีดาลัส ดิกเกิ้ล, เอมมาลีน แวนซ์ ,สเตอกีส พอดมอร์ ได้รับรับคำสั่งให้พาแฮร์รี่ไปที่ บ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์ เพลซ ซึ่งเป็นบ้านของซีเรียส และเป็นที่ที่ภาคีประชุมกัน บ้านนี้ยังมีครอบครัววีสลีย์ ซึ่งมาช่วยทำความสะอาดบ้าน เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ และคนอื่นๆ เช่น เซเวอรัส สเนป(ซึ่งไม่ค่อย มาเท่าไร), ครีเชอร์ (เอลฟ์ ประจำบ้านที่ดูถูก และไม่ชอบใครๆเลย โดยเฉพาะพวกเลือดสีโคลน)หลังจากนั้น รอน วีสลีย์ และเฮอร์ไมโอนี่ก็เล่าทุกอย่างให้แฮร์รี่ฟังว่าทำไมพวกเขาถึงส่งจดหมายถึงแฮ ร์รี่ไม่ได้ และการประชุมลึกลับที่ เฟรด กับ จอร์จ วีสลีย์ ใช้หูยืดยาวแอบฟังแต่ตอนหลังโดนจับได้

ระหว่างที่อยู่บ้าน เดอร์สลีย์ กับซิเรียส แฮร์รี่ฝันถึงประตูแปลกประหลาดบานหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป แต่เขาก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ จนเมื่อถึงวันที่ แฮร์รี่ต้องไปฟังคำพิพากษา มิสเตอร์วีสลีย์ เป็นคนไปส่งโดยใช้วิธีที่เขาไม่เคยใช้มาก่อนในการเข้าไปในที่ทำงาน เมื่อไปถึงแฮร์รี่สังเกตเห็นประตูบานหนึ่งที่คล้ายกับที่เขาฝัน เป็นครั้งแรกที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับหน้าที่แปลกประหลาดใหม่ในกระทรวง นั่นก็คือ ผู้ปิดปากเงียบ ในระหว่างการฟังคำพิพากษาทำนาย ดัมเบิลดอร์เป็นผู้ช่วยให้แฮร์รี่ รอดจากทุกอย่าง แต่มีบางสิ่งแปลกไปเมื่อเขาพยายามจะเรียกดัมเบิลดอร์เพื่อขอบคุณ

แฮร์รี่กลับไปที่โรงเรียนฮอกวอตส์ และพบว่ากระทรวงพยายามจะยึดครองฮอกวอตส์และปิดข่าวเกี่ยวกับการกลับมาของโวลเดอมอร์ แฮร์รี่ถูกมองเป็นตัวประหลาด ดัมเบิลดอร์ถูกยึดเหรียญตรา และถูกถอดถอนจากตำแหน่งต่าง ๆ แต่ยังมิได้ละทิ้งตำแหน่งอาจารย์ใหญ่แห่งฮอกวอตส์

ปีการศึกษาที่ห้าเริ่มต้นด้วยการประกาศข่าวโดยดัมเบิลดอร์ว่าอาจารย์ ป้องกันตัวจากศาสตร์มืดคนใหม่คือ โดโรเลส อัมบริดจ์ แฮกริดไม่อยู่ที่โรงเรียน เมื่อพวกแฮร์รี่ มีช่วงเรียน กับอัมบริดจ์ เธอไม่ยอมให้ใครเรียนเกี่ยวกับการป้องกันตัวแบบปฏิบัติ แต่ให้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการป้องกันตัวแทน นักเรียนหลายคนประท้วงเรื่องนี้ จนแฮร์รี่พูดออกมาว่าโวลเดอมอร์กลับมา อัมบริดจ์ลงโทษกักบริเวณแฮร์รี่และให้คัดลายมือกับเธอในออฟฟิศ หลังจากที่แฮร์รี่กลับเข้ามาในห้องรวมกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่ห็นรอยแดงบนมือของแฮร์รี่ ซึ่งเกิดจากปากกาขนนกที่เขียนด้วยเลือดแทนหมึก พวกแฮร์รี่ทนไม่ไหวที่แต่ละวันไม่ได้เรียนเกี่ยวกับการป้องกันตัวแบบจริงๆ เฮอร์ไมโอนี่วางแผนทั้งหมดให้แฮร์รี่เป็นหัวหน้าของทีม และมีคนหลายคนที่มาเข้าร่วมโดยทำการลับๆใน ห้องต้องประสงค์ภายใต้ชื่อทีมว่า กองทัพ ดัมเบิลดอร์ พวกเขาเรียนการป้องกันตัวจริงๆในห้องนั้น เรียนคาถาเดียวกับที่แฮร์รี่ทำได้ เช่น คาถาเสกผู้พิทักษ์ และเรียนจากหนังสือที่เฮอร์ไมโอนี่ได้มาจากห้องสมุด ไม่นานหลังจากที่ อัมบริดจ์ตั้งกฎมากมายเพื่อต่อต้านโรงเรียน เธอเองได้รับแต่งตั้งให้เป็นคนตรวจการเรียนการสอนของอาจารย์แต่ละคน หลังจากที่ประมวลผลออกมาแล้ว ซีบิล ทรีลอว์นีย์ ถูกไล่ออก แต่ดัมเบิลดอร์ออกมาช่วยเหลือ อัมบริดจ์รู้แผนการของแฮร์รี่จึงออกกฎห้ามการรวมกลุ่มโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม และเธอก็จัดกลุ่มของเธอเพื่อคอยตรวจสอบความประพฤติของนักเรียนแทนเธอ รวมทั้งคอยจับตาดูแฮร์รี่ พอตเตอร์ กลุ่มนักเรียนของเธอรวมไปถึง แครบ กอยล์ และ เดรโก มัลฟอย ซึ่งคอยจับตาดูและพยายามจะเข้าไปในห้องต้องประสงค์

และวันนั้นก็มาถึง พวกอัมบริดจ์และมัลฟอยบุกเข้าไปในห้องต้องประสงค์ได้โดยมีหนอนบ่อนไส้ กองทัพดัมเบิลดอร์หนีกันออกไปเหลือแต่แฮร์รี่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ หลังจากนั้นแฮร์รี่ถูกคัดออกจากทีมควิชดิชไม่ให้เล่นเป็นซีกเกอร์ ทุกครั้งที่แฮร์รี่พูดถึงโวลเดอมอร์ อัมบริดจ์จะให้บทลงโทษกับแฮร์รี่อย่างเคย จนแผลเป็นบนหลังมือของเขาปรากฏชัดขึ้น คืนหนึ่งแฮร์รี่ฝันเห็นว่าโวลเดอมอร์กำลังทำร้ายมิสเตอร์วีสลีย์ เขาเรียกรอนซึ่งคิดว่าเป็นแค่ฝัน แต่มักกัลนากัล เกรงว่าจะเป็นเรื่องจริง จึงส่งพวกเขากลับไปที่ กริมโมลด์ เพลซ ต่อมาพวกเขาได้ไปเยี่ยม มิสเตอร์ วีสลีย์ที่โรงพยาบาลเซ็นต์ มังโก ในโรงพยาบาลยังพบพ่อแม่ของเนวิลล์ และ กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต หลังจากที่เยี่ยมเสร็จแล้ว พวกเขาก็กลับมาที่ฮอกวอตส์อีกครั้ง

ฟีเรนเซ่ (เซ็นทอร์)มาเป็นอาจารย์สอนการทำนายคนใหม่แทนทรีลอว์นีย์ การเรียนก็หนักขึ้นสำหรับแฮร์รี่เมื่อเขาต้องเรียนวิชาพิเศษ และฝึกคาถาสกัดใจกับสเนป เพื่อไม่ให้โวลเดอมอร์อ่านใจเขาได้ แต่ก็ดูจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เมื่อแฮร์รี่ทนไม่ไหวเขาจึงสะท้อนคาถากลับเข้าสเนป ทำใหได้เข้าไปในความทรงจำฝังใจของสเนป หลังจากการฝึกอันสาหัส การสอบ ว.พ.ร.ส กำลังมาถึง พวกปีห้าทั้งหมดถูกตั้งคำถามว่าอยากเป็นอะไรในอนาคต เพื่อเป็นแนวทางว่าเขาต้องเรียนอย่างไรต่อไป แฮร์รี่อยากเป็น มือปราบมาร

ดัมเบิลดอร์ถูกขับไล่จากโรงเรียนแต่เขาหนีได้อย่างสง่างาม การสอบมาถึง เป็นเวลาเดียวกับที่ เฟร็ดและจอร์จ เริ่มวางแผนเกี่ยวกับการออกจากโรงเรียนก่อนจบปีเจ็ด ระหว่างสอบมีการต่อสู้เกิดขึ้น เฟร็ดกับจอร์จ จัดการให้อัมบริดจ์ปั่นป่วนและหัวหมุนอย่างหนัก และขี่ไม้กวาดออกจากโรงเรียนไปซึ่งทุกคนในโรงเรียนได้เห็น แฮกริดถูกไล่ออกเมื่อเขากลับมาหลังจากแฮร์รี่เข้าเรียนมาประมาณสองสามเดือน แต่ได้บอกเกี่ยวกับกรอพว์น้องยักษ์ของเขาไว้ รวมทั้งเล่าเรื่องราวที่เขาหายตัวไปหลายเดือนว่าได้รับคำสั่งจากดัมเบิลดอร์ ให้ไปชักชวนยักษ์มาเป็นพวก คืนหนึ่งแฮร์รี่ฝันว่าซิเรียสถูกทำร้ายอย่างรุนแรงเขาบอกพวกรอน และ เฮอร์ไมโอนี่ และบอก กลุ่ม ก.ด. บางคน จินนี่ วีสลีย์, ลูน่า เลิฟกู๊ด, กับ เนวิลล์ ลองบัทท่อม เพื่อช่วยให้เขาเข้าไปใช้เตาผิงที่ไม่ถูกดัก เพื่อติดต่อว่าฝันของเขาเป็นความจริงหรือไม่ ระหว่างนั้นเจอครีเชอร์ซึ่งบอกว่าซิเรียสไม่อยู่ ไม่นานเขาถูกจับโดยอัมบริดจ์กับพวกมัลฟอย จัดการพวกของเขาที่คอยดูข้างนอก เฮอร์ไมโอนี่ หลอกอัมบริดจ์ว่าดัมเบิลดอร์ซ่อนอาวุธไว้ในป่าและพาเธอเข้าไปเจอกรอพว์ พวกเซนทอร์โจมตีอัมบริดจ์ เธอด่าพวกนั้นกลับไป จึงถูกจับไปลงโทษ

กลับไปในปราสาททุกคนหนีออกมาจากเงื้อมมือของพวกมัลฟอยได้ และตัดสินใจจะบินไปที่ กระทรวงโดยเธรสตอล เมื่อไปถึงเขาหาห้องที่อยู่ในฝันและพบว่าสิ่งที่โวลเดอมอร์ต้องการคือลูก แก้วแห่งคำทำนาย พวกผู้เสพความตายเข้ามาโจมตี และบอกว่าเป็นกับดัก ซิเรียสเข้ามาช่วยแฮร์รี่ได้ทันก่อนแฮร์รี่จะให้ลูกแก้วแก่ ลูเซียส มัลฟอยไป พวกภาคีเข้ามาช่วยอีกกลุ่ม เบลลาทริกซ์ เลสเตรนจ์ ต่อสู้กับ ซิเรียส และทำให้ซีเรียสตกเข้าไปในม่านแปลกม่านหนึ่ง แฮร์รี่มารู้ตอนหลังว่าซิเรียสได้ตายจากเขาไปแล้ว โวลเดอมอร์เผชิญหน้ากับดัมเบิลดอร์ตอนหลัง และโวลเดอมอร์ก็หายไป ในขณะเดียวกับที่ ฟัดจ์ กับคนในกระทรวงกลุ่มหนึ่งมาเห็นพอดี ดัมเบิลดอร์บอกว่ามีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับโวลเดอมอร์กับแฮร์รี่ เขาจึงไม่ต้องการมองหรือคุยกับแฮร์รี่เพราะโวลเดอมอร์อาจรู้ได้ และบอกด้วยว่า สงครามเริ่มขึ้นแล้ว


ต่อภาค 6